8.03.2014

Everyday Karmakamet


      Everyday Karmakamet เป็นหนึ่งในคาเฟ่ที่น่ารักและยังเงียบสงบแห่งหนึ่งในกรุงเทพเลยก็ว่าได้ เราเคยไปที่นี่มาประมาณ 3 ครั้งได้ และก็ยังคงติดใจอยู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านเล็กๆก็ตาม แต่ก็มีคาแรกเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ร้านนี้หาไม่ยากเลยค่ะ ลง bts ศาลาแดง ทางออก 3 เดินมาตรงอาคารญาดาก็เจอเลยค่ะ สิ่งแรกที่เข้าไปในร้านจะได้กลิ่นหอมของเครื่องหอมที่ร้านมีขายไว้ โดยเป็นร้านกาแฟกึ่งร้านเครื่องหอม และยังมีอุปกรณ์ตกแต่งเก๋ๆ และยังมีของใช้เล็กน้อยๆ ซึ่งบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ได้ชัดเจนมาก ปกติวันเสาร์อาทิตย์คนจะค่อนข้างเยอะ และที่นั่งก็ไม่เยอะด้วย แต่ล่าสุดเราไปวันธรรมดาก็เลยค่อนข้างเงียบ เลยเอากล้องมาถ่ายบรรยากาศร้านให้ดูซะเลย:)


เริ่มด้วยบรรยากาศหน้าร้านค่ะ ตกแต่งด้วยสีที่คลาสสิคและเป็นเอกลักษณ์มาก:)



เข้ามาก็สั่งอาหารได้ที่เคาน์เตอร์เลย


มีมุมให้ได้เขียนโปสการ์ดที่ร้านจัดให้ไว้เป็นที่ระลึกได้เลยค่า


วันนี้สั่งเป็น almond croissant กับ rose milk tea ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแนะนำของร้านเลยค่า อร่อยกลมกล่อมมาก




ส่วนนี้เป็นบรรยากาศของร้านที่อยู่ลึกเข้าไป มีทั้งของที่ระลึก ของแต่งบ้าน และของใช้กุ๊กกิ๊กด้วยค่ะ มีหลายอย่างน่าซื้อมากก :-)

 
                                   




                                     

                     
                                   

Quote นี้เป็น signature ของร้านนี้คล้ายกับชื่อร้านเลยค่ะ





หลังทานเสร็จเรียบร้อย ก็นั่งฟังเพลงชิวๆไปค่ะ 

 

จบสำหรับวันนี้ค่ะ


 Have a nice day ka everyone!




BEGIN AGAIN


                เมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่แล้วก่อนที่เราจะสอบมิดเทอมเราจำได้ว่าเราไปดูหนังเรื่องนึง ที่อาจจะไม่ใช่หนังที่ต้นทุนสูงมากมาย หรือเป็นหนังฟอร์มยักษ์อะไรขนาดนั้น แต่เป็นหนังที่เราออกมาแล้วเราประทับใจมากๆถึงขนาดไปดูซ้ำอีกรอบนึงก่อนหนังออกจากโรง นั่นก็คือเรื่อง Begin Again ซึ่งเป็นหนังแนวโรแมนติค แนวๆ About Time แต่เนื้อเรื่องต่างออกไป โดยเรื่องจะกล่าวถึงคนสองคนซึ่งคือนางเอกคือเกรตต้า เป็นคนแต่งเพลงที่ร้องเพลงเพราะมากกก อกหักจากอดัม Maroon5 และไปเจอกับหนุ่มใหญ่ซึ่งเป็นอดีตโปรดิวเซอร์มือทองที่กำลังตกอับ ทั้งคู่ก็เลยจะไปเสนอนางเอกไปเป็นนักร้อง แต่กลับโดนปฎิเสธ ทั้งคู่จึงเลือกที่จะไปอัดเพลงเอง โดยสรรหานักดนตรีตามที่ต่างๆมารวมกัน และอัดเพลงตามสถานที่ต่างๆในนิวยอร์ค โดยให้เมืองนิวยอร์คเป็นห้องอัดของเพลงไปเลย สำหรับเรามันพีคสุดคือเวลาที่เค้าอัดเพลงตามที่ต่างๆ ชอบมากๆ คิดว่าส่วนหนึ่งน่าจะมาจากที่เราอินกับหนังสือ New york First Time อยู่ซึ่งพออ่านจบก็หลงรักเมืองนี้และอยากไปมากๆ บวกกับหนังนี้รวมทั้งเพลงและบรรยากาศของเมืองให้เห็น รวมถึงมู้ดของความสุขของนางเอกตอนร้องเพลง ตอนที่อกหัก รวมถึงคนในวงตอนเล่นดนตรี และมีนิวยอร์คเป็นฉาก ทำให้เราหลงรักเรื่องนี้มากๆ บอกเลยว่าสำหรับเราเพลงของ keira ในเรื่องนี้เพราะทุกเพลง ชอบตั้งแต่ตอนร้องตามถนนในหนังจนมาฟังแบบเพลงจริงๆก็ยิ่งชอบมากๆ เรื่องจะลงเอยยังไงต้องไปติดตาม เรื่องนี้สนุกและน่ารักมากๆ:)



นี่เป็นโปสเตอร์ของหนังเรื่องนี้ค่ะ:)



ฉากบางฉากของหนัง

นี่เป็นตัวหลักของหนังเรื่องนี้เลยค่ะ






มีตัวอย่างหนังกับเพลงบางเพลงที่ประกอบหนังเรื่องนี้ที่เราชอบมากๆค่ะ




Lost stars- Keira Knightley




Tell me if you wanna go home - Keira Knightley 


See you next episode soon

Stay tune!

8.02.2014

MY FAVORITE THINGS

 สวัสดีค่ะ หลังจากหายไปนานมากกกกก เพราะยุ่งมากและไม่มีเวลาเลย วันนี้รู้สึกคึกนิดหน่อยเลยอยากอัพ เกี่ยวกับของที่ชื่นชอบในช่วงนี้ เลยจัดให้เป็นfavoriteของช่วงนี้เลย มีอยู่ไม่กี่อย่างค่ะ มาดูกันเลยย:)


                                       อันนี้รวมๆกันเลยทั้งเครื่องสำอาง น้ำหอม และโลชั่นค่ะ



 
อย่างแรกเป็นโลชั่น gucci accent จำไม่ได้ว่าซื้อไหน เอาของที่บ้านมาใช้ค่ะ กลิ่มหอมมมมาก กลิ่นติดทนนานด้วยค่ะ




ส่วนอันนี้เป็นน้ำหอม marc jacob คงไม่ต้องพูดกิตติศัพท์มากมาย ทุกคนคงรู้จักกันดี อันนี้กลิ่น daisy รุ่นเก่าที่คงความคลาสสิคไว้มาก กลิ่นหอมเหมือนอยู่ในสวนดอกไม้ จำได้ว่าซื้อที่ king power ราคาประมาณ 2300 กว่าบาทอันนี้เป็นแบบ 100ml. ใช้มาเกือบสองปีแล้วยังไม่หมดเลย กลิ่นหอมติดทนนานด้วยค่ะ ชอบมากๆใช้เป็นกลิ่นประจำตัวเลยก็ว่าได้:)


ชิ้นนี้เป็น rare item สำหรับเรามากๆเพราะพวกเครื่องสำอางค์ ยาทาเล็บของ topshop ไม่มีขายในไทย ต้องไปซื้อถึงต่างประเทศ อีกทั้งสีให้เลือกก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ มีไม่มากด้วย ชิ้นนี้เลยหาแทบไม่เจอแล้ว ชิ้นนี่ราคาประมาณ 250 บาทได้ถ้าจำไม่ผิด สีจริงๆสวยมากๆค่ะ ถึงจะสดไปหน่อย แต่เราว่าเข้ากับช่วงซัมเมอร์มากๆเลย สีเป็นสีส้มๆชมพูๆออกไปทางโทนโอรสค่ะ สีสวยมากค่ะ




ชิ้นนี้เป็นของที่หาได้ง่ายมากและดีมากๆค่ะ เป็นมาสคาร่าปัดคิ้วของ maybelline หาซื้อได้ตามบู๊ทและวัตสันค่ะ ราคาไม่แพงด้วยแต่เราจำไม่ได้แล้วค่ะ สีสวยธรรมชาติไม่ดูโอเวอร์มาก แต่จริงๆตอนเราซื้อชิ้นนี้เราทำผมสีอ่อน ตอนนี้ย้อมมาโทนดำแล้วเลยไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่เลย




ชิ้นสุดท้ายแล้วว อันนี้เป็น topshop เช่นกันค่ะ ไปๆมาๆเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชอบสีโอรส อันนี้เป็นสี whimsical ลิปนี้เป็นเนื้อแมตค่ะ ไม่รู้ว่าตอนนี้มีขายอยู่ไหม แต่ชอบมากๆค่ะ ถ้าเจออีกก็อยากซื้อมาเก็บไว้เยอะๆ สีสวยด้วยทาแล้วดูธรรมชาติ ปากดูสุขภาพดี ชิ้นนี้ราคาประมาณ 440 กว่าบาทค่ะ





 
                               จบแล้วค่ะ สำหรับบล๊อคนี้ บล๊อคหน้าจะพูดถึงอะไรต้องติดตามค่า:)

10.23.2012

New my fav song: Ronan-Taylor Swift


     Now my fav song is RONAN from Taylor Swift.When I started to hear this song i didn't like it.But i heared it every day from TV,radio,my friend etc. i love this and i saw live concert's taylor that she sang Ronan on youtube and under the video have detail about this song.Ronan is the boy who died from cancer and he just 4 year old! Taylor wrote this single after reading blog from Ronan's mother.  This is one of the sweetest songs Taylor has ever written!
    
     This song makes me cry and smile together. love this!

 เพลงที่ชอบมากสุดตอนนี้คือเพลง ronan ของ taylor ซึ่งตอนแรกฟังแล้วไม่ชอบเลย แต่พอฟังไปฟังมารู้สึกว่าเพราะและพอฟังคำแปล มันซึ้งมากก ชอบเพลงนี้มากก สู่สุคตินะโรแนน
  

                                                                

                                                                       RIP RONAN

Fav Film: Moonrise Kingdom


       สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ฟิตสักหน่อยเพราะรู้สึกอยากโพสอะไรสักอย่างลงบล๊อก หลังจากที่หายไปนานทั้งเรียนเอย สอบเอย และหลังจากนี้ก็คงไม่ได้โพสอีกนาน เพราะเปิดเทอมT_T ไหนๆว่างๆก็ลงให้อิ่มไปเลยเนอะ:) ค่ะวันนี้มีภาพยนตร์เรื่อง moonrise kingdom ซึ่งไม่แน่ใจว่าใครเคยดูรึเปล่าเพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเงียบ แต่ผู้กำกับคือ เวส แอนเดอสัน จริงๆก็มีมาสักพักแล้วช่วงเดือนมิถุนายน เป็นภาพยนตร์แนวอินดี้เล็กๆ ที่น่ารักมากทีเดียว ทำให้เรารู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในฤดูร้อนปี 1965 ของประเทศอังกฤษ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชายหญิงสองคนคือแซมและซูซีทั้งคู่อายุ 12 ขวบ ที่ตกหลุมรักกัน โดยฝ่ายชายเป็นลูกเสือ ทั้งคู่แอบทำสัญญาลับด้วยกันและได้หนีตามกันไปอยู่ในป่า เรื่องราวจะวุ่นวายแค่ไหน โปรคติดตามนะคะ:D

        จริงๆเรื่องนี้หาดูค่อนข้างยากน้า เพราะเนื่องจากไม่ดังในเวปไม่ค่อยมี และตามร้านขายหนังก็มีแต่ในเมืองนอก เท่าที่เช็คมายังไม่เห็นมีขายในไทยเลย

                                                  อันนี้โปสเตอร์ค่ะ แค่โปสเตอร์ก็น่าดูแล้ว
 

ซูซีและแซม พระเอก-นางเอกของเรื่องค่ะ
 

เหล่าครูฝึกและลูกเสือสีสันของเรื่อง:)
 

 

ฉากนี้น่ารัก:D
 
 
 
ลองดู trailer ก่อนละกัน
 

SRETSIS Sweetness


       นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์สัญชาติไทยชื่อดังอย่าง sretsis โดย 3 พี่น้อง โดยแบรนด์นี้เองก็ก่อตั้งมาตั้งแต่ราวปี 2000 กว่าๆแล้วก็ประมาณ 10 ปีได้ โดยปีนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นปีที่โด่งดังที่สุดของ sretsis ก็ว่าได้ โดยได้เริ่มเป็นที่ตื่นตาตื่นใจก็คงจะเป็น collection up in the clouds ในปลายปี 2011 และช่วง summer 2012 ก็เป็น collection oh my dear deer ที่ออกเป็นแนว vintage country ให้อารมณ์เหมือนเราอยู่ในฟาร์มที่มีกวาง ซึ่งทุกคนที่ได้พบเห็ยก็คงจะรักแบรนด์นี้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะเสื้อที่ลงสกรีนลายกวาง ซึ่งถือว่าเป็น signature ของ collection นี้เลยทีเดียว   และใน autumn/winter 2012 ได้เปิดตัว collection ล่าสุดของ sretsis ซึ่งจริงๆก็ออกมาได้ประมาณเดือนกว่าๆและละ แต่ช่วงนั้นเราติด final จึงไม่ได้แตะคอมเลยT_T ตอนนี้ปิดเทอมอยู่ก็รู้สึกว่าควรจะลงได้แล้ว เพราะมันน่ารักมากและไม่ควรพลาดจริงๆ

     เอาละ! รู้สึกว่าตัวเองพล่ามมามากแล้ว555 ก็เอาเป็นว่ามาชมรูปสวยๆงามๆจาก collection นี้กันเลยดีกว่า เกี่ยวกับขนมหวานในวัยเด็กของพวกเรามานำเป็น inspiration ซึ่งบอกตามตรงว่า sretsis ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลยจริงๆ:D








 
 
 


                                     และนี้ก็เป็นภาพบรรยากาศเล็กๆน้อยๆจากงานเปิดตัว collection นี้คะ
 

การ์ดเชิญน่ารักมากค่ะ:)
 

 

happy anniversary 10 years SRETSIS

 
goodnight and enjoy with this show and this collection ka everyone xx